2h31euxp4z0i6fjj3z3mmq14p1e9.webp

วันหนึ่งเจ้าแมวที่บ้าน (ชื่อ “มะลิ”) เริ่มมีอาการจามบ่อยๆ น้ำมูกใสๆ ไหล และดูซึมๆ ไม่ค่อยกินข้าวเหมือนปกติ ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะแพ้อะไรหรือแค่หนาว แต่พอผ่านไปวันสองวัน อาการแย่ลง เริ่มมีน้ำมูกข้นขึ้น ตาเริ่มเยิ้ม มีขี้ตามากจนเช็ดแทบทุกชั่วโมง เลยตัดสินใจพาไปหาหมอ  

ตอนพบหมอ
หมอบอกว่าเป็น “โรคหวัดแมว” ซึ่งเกิดจากไวรัส พบบ่อยในแมวเล็กหรือแมวที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง โชคดีที่มะลิเราฉีดวัคซีนมาแล้ว เลยอาการไม่ถึงขั้นรุนแรง หมอให้ยาลดน้ำมูก ยาปฏิชีวนะกันติดเชื้อแทรกซ้อน และยาหยอดตากลับมาด้วย  

การดูแลต่อที่บ้าน  

- เช็ดตาและจมูกบ่อยๆ ด้วยสำลีชุบน้ำอุ่น  
- ป้อนยา (แมวจะงอแงนิดหน่อย ต้องใจเย็น)  
- กระตุ้นให้กินอาหารด้วยการให้อาหารเปียก หรืออุ่นอาหารให้มีกลิ่นหอม  
- ถ้าแมวไม่กินและเริ่มซูบลง อาจต้องป้อนด้วยไซริงค์

ค่าใช้จ่าย
สำหรับครั้งนี้ หมอคิดค่าตรวจ ค่ายา และค่าบริการรวมประมาณ 800-1,200 บาท (แล้วแต่คลินิกและพื้นที่) ถ้ารักษาโรงพยาบาลสัตว์ใหญ่อาจสูงกว่านี้  

สิ่งที่คนมักอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหวัดแมว  

1. ติดต่อถึงคนไหม? ไม่ติดต่อถึงคน แต่แพร่ระหว่างแมวได้ง่ายมาก  
2. วัคซีนช่วยได้ไหม? วัคซีนช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ แต่ไม่ป้องกัน 100%  
3. รักษาหายไหม? ส่วนใหญ่หายได้ถ้าดูแลดี แต่บางตัวอาจกลายเป็นพาหะไวรัสอยู่ในตัว ต้องเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเสมอ  
4. ป้องกันยังไง? ฉีดวัคซีนให้ครบทุกปี รักษาความสะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแมวที่ป่วย

สุดท้าย... ถ้าเจ้าเหมียวเริ่มมีอาการผิดปกติ อย่ารอช้า รีบพาไปหาหมอดีกว่าแก้เอง เพราะบางทีเราอาจมองข้ามจุดสำคัญไป!

โพสต์ที่เกี่ยวข้อง

Prasopkan.com - แบ่งปันประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจไม่สิ้นสุด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

© 2001-2025 prasopkan