โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะในแมว หากรอช้าปล่อยไว้อันตรายมาก!
ถ้าพูดถึงโรคนิ่วในแมวนี่ บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่เครียดไม่ใช่เล่น เพราะมันเกิดขึ้นกับแมวตัวโปรดของเราเอง ชื่อ "มะลิ" เป็นแมวเพศผู้ อายุประมาณ 3 ปี อาการเริ่มต้นที่สังเกตได้คือ มะลิเริ่มเข้ากระบะทรายบ่อยมาก แต่ไม่ได้ฉี่ออก หรือออกมาแค่หยดสองหยด บางครั้งก็ร้องเหมือนเจ็บตอนพยายามฉี่ ตอนแรกเราก็คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอเห็นฉี่เขามีเลือดปนออกมาด้วย ถึงรู้ว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา
สาเหตุโรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะในแมว
หลังพาไปหาสัตวแพทย์ คุณหมอบอกว่าโรคนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น
- อาหาร: อาหารเม็ดบางยี่ห้อมีแร่ธาตุสูงเกินไป เช่น แมกนีเซียมหรือฟอสฟอรัส ทำให้เกิดผลึกในปัสสาวะ
- การดื่มน้ำไม่เพียงพอ: แมวมักดื่มน้ำน้อยโดยธรรมชาติ
- พันธุกรรม: แมวบางสายพันธุ์มีแนวโน้มเป็นมากกว่า เช่น แมวเปอร์เซีย
- น้ำหนักเกิน: แมวอ้วนมีโอกาสเป็นมากกว่า
วิธีป้องกัน
1. ให้อาหารที่เหมาะสม: ถ้าเป็นแมวที่เคยมีประวัติเป็นนิ่ว ควรให้อาหารสูตรเฉพาะสำหรับแมวระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary)
2. กระตุ้นให้ดื่มน้ำเยอะๆ: ใช้ชามน้ำกว้างๆ หรือเปลี่ยนเป็นน้ำพุแมว เพื่อให้เขาสนุกกับการดื่มน้ำ
3. รักษาความสะอาดกระบะทราย: แมวชอบที่สะอาด ถ้ากระบะทรายสกปรก เขาอาจกลั้นฉี่ ซึ่งไม่ดีเลย
4. ควบคุมน้ำหนัก: อย่าปล่อยให้อ้วนเกินไป
ทำยังไงต่อ?
ตอนนั้นเราพามะลิไปหาหมอทันที หมอตรวจปัสสาวะแล้วพบว่ามีผลึกนิ่วจริงๆ และทำการสวนปัสสาวะเพื่อช่วยระบายออก เพราะมะลิเริ่มมีลักษณะใกล้จะฉี่ไม่ออก (ซึ่งอันตราย!) หลังจากนั้นหมอให้ยากิน ลดการอักเสบ พร้อมกับเปลี่ยนอาหารเป็นสูตรดูแลระบบทางเดินปัสสาวะโดยเฉพาะ ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้ นิ่วอาจไปอุดตันจนต้องผ่าตัด ซึ่งค่าใช้จ่ายจะสูงมาก
ค่าใช้จ่าย
- ค่าตรวจปัสสาวะและทำการสวนเบื้องต้น: 1,500 - 3,000 บาท
- ค่าอาหารสูตรพิเศษ: ประมาณ 500 - 800 บาท ต่อถุง (อยู่ได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์)
- ถ้าถึงขั้นต้องผ่าตัดนิ่ว ค่าใช้จ่ายอาจเริ่มต้นที่หลักหมื่น
บรรเทาอาการเบื้องต้น (แบบพื้นบ้าน) ถ้าในกรณีฉุกเฉินหรือยังไม่ได้ไปหาหมอทันที วิธีเบื้องต้นที่ช่วยได้คือ
1. ให้แมวดื่มน้ำเยอะๆ กระตุ้นด้วยน้ำปลาเจือจาง (แต่นิดเดียว พอให้มีกลิ่น)
2. ใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณท้องด้านล่าง เพื่อช่วยลดการเกร็งของกระเพาะปัสสาวะ
3. หลีกเลี่ยงอาหารเม็ดทันที ให้เป็นอาหารเปียกผสมน้ำเยอะๆ
แต่! สิ่งสำคัญที่สุดคือ รีบพาไปหาหมอ อย่ารอ เพราะถ้าฉี่ไม่ออก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย
สิ่งที่คนมักอยากรู้เพิ่มเติม
- หายขาดไหม?: โรคนี้ไม่หายขาด แต่ควบคุมได้ ถ้าให้อาหารและดูแลอย่างเหมาะสม
- กลับมาเป็นซ้ำได้ไหม?: มีโอกาสสูงถ้ายังให้อาหารหรือดูแลไม่ถูกวิธี
- อาหารเม็ดต้องหยุดเลยไหม?: ไม่จำเป็นต้องหยุด แต่ควรเลือกสูตรที่เหมาะสม
เล่าแบบเพื่อนเตือนเพื่อนเลยนะ ถ้ามีแมวที่เริ่มมีอาการแบบนี้ อย่าละเลยเด็ดขาด รีบสังเกต รีบจัดการ เพราะโรคนี้ทรมานทั้งแมวและเจ้าของจริงๆ!
หน้า:
[1]